เที่ยวฮ่องกง 2023 4 วัน 3 คืน

เที่ยวฮ่องกง 2023 4 วัน 3 คืน ฮ่องกงประเทศที่เราหนีเที่ยวบ่อย เป็นจุดหมายปลายทางที่เดินทางง่าย เที่ยวได้สบาย มีตั้งแต่ของกินอร่อย มุมชิคๆ วัดดัง ไปจนถึงสวนสนุกระดับโลก ทำให้ฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ใครๆก็อยากจะมาให้ได้ทริปนี้เรามีเวลาเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน เป็นการได้กลับมาฮ่องกงอีกครั้งในรอบ 5 ปี ทริปนี้เลยได้มีโอกาสไปอัพเดทคาเฟ่ แหล่งที่เที่ยว และการเดินทางไปฮ่องกงมาฝากทุกคนกันค่ะ

เที่ยวฮ่องกง 2023 4 วัน 3 คืน มีที่ไหนน่าสนใจบ้างมาดูกันเลย

เที่ยวฮ่องกง 2023 4 วัน 3 คืน ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน Hong Kong Airline เดิมทีเราเคยเดินทางด้วยสายการบินไปฮ่องกงมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก่อนหน้านี้เราสามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี เลือกที่นั่งได้ และมีอาหารเสิร์ฟ ซึ่งจะบอกว่าสายการบินนี้คือ สายการบินฟูลเซอร์วิช ที่ราคาน่ารักก็ว่าได้แต่ในปัจจุบัน เราไม่สามารถโหลดกระเป๋าได้ (ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มเท่านั้น) แต่บนเครื่องจะมี snack และเครื่องดื่มบริการนะคะโดยรวมเราชอบเวลาของสายการบินนี้ ไฟล์ทไปถึงฮ่องกงเช้าเที่ยวต่อแบบไม่เสียเวลา และขากลับก็มีให้เราเลือกเยอะ ส่วนของที่นั่งถือว่ากำลังดี มีจอ ถ้าได้โหลดกระเป๋าฟรีด้วยจะเริ่ดมาก

พักที่ไหนดี

ขึ้นอยู่กับความชอบและความไม่ชอบของแต่ละคน ถ้าใครจำกัดงบ เราแนะนำให้จองผ่าน Airbnb จะมีที่พักราคาถูกให้เลือกมากกว่าแต่ถ้าอยากนอนที่พักวิวสวยๆ บริการระดับหรูขึ้นมาหน่อย หรือนอนใกล้สถานีรถไฟ ที่พักแบบโรงแรมน่าจะเหมาะกว่า ด้านล่างน้ีเป็นรายชื่อโรงแรมที่เหมาะกับการท่องเที่ยวด้วย:

  • Best Western Grand Hotel: โรงแรมเล็ก แต่ห้องขนาดพอเหมาะ บรรยากาศอบอุ่น เดิน 5 นาทีถึงสถานี Jordan MRT
  • Butterfly on the Prat: โรงแรมตกแต่งด้วยสีสันสดใส ห้องสไตล์โมเดิร์น เหมาะสำหรับคนงบไม่เยอะ
  • Holiday Inn: น่าจะเป็นสถานที่ที่เงียบสงบที่สุดท่ามกลางเมืองอันคึกคักของฮ่องกง ในราคาระดับปานกลาง แต่ได้บริการที่ดี บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า แถมมี Wi-Fi แผนที่ และบริการโทรให้ด้วย
  • The Ritz-Carlton: เหมาะสำหรับคนงบเยอะขึ้นมาหน่อยค่ะ เป็นโรงแรมหรู ทั้งการตกแต่งห้องและบริการ ทั้งยังมีวิวอ่าววิคตอเรียให้ได้ชม

วิธีการเดินทาง

รถแท็กซี่:

รถแท็กซี่ส่วนใหญ่ในฮ่องกงจะมีสีแดง, เขียว, หรือฟ้า รถคันไหนว่างรับผู้โดยสารได้จะมีสัญลักษณ์เขียนว่า “for hire” และแท็กซี่จะไม่จอดรับตรงถนนที่มีเส้นคู่สีเหลือง หรือตรงป้ายรถเมล์

รถไฟ:

ระบบรถไฟของฮ่องกงขึ้นชื่อเป็นขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยรถไฟของฮ่องกงเรียกว่า Mass Transit Railway หรือ MTR ครอบคลุมทั้งในเกาะฮ่องกง (Hong Kong Island), เกาลูน (Kowloon), และเขต New Territories มีสถานีทั้งหมด 91 สถานี และสถานี Light Rail อีก 68 แห่ง ทั้งหมดนี้เชื่อมต่อด้วยรถไฟ 11 สาย วิ่งตั้งแต่เช้ามืด 05:50 – 00:59 น.

ตั๋วรถไฟแบบเที่ยวเดียวคิดราคาเริ่มต้นที่ HK$3.50 และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง หาซื้อได้ตามตู้ขายตั๋วอัตโนมัติในสถานี หรือซื้อเป็นบัตร Octopus Card เป็นบัตรจ่ายค่ารถโดสารแบบเติมเงิน ใช้จ่ายค่าโดยสารขนส่งสาธารณะได้ตั้งแต่รถไฟ MTR, รถบัส, เรือเฟอร์รี่, รถราง, และรถแท็กซี่ หรือใช้จ่ายซื้อของในร้านสะดวกซื้อก็ได้เช่นกัน สามารถเติมเงินเข้าบัตรได้ที่ร้าน 7-Eleven, Circle K, Starbucks และอีกมากมาย

รถไฟอีกแบบหนึ่งที่นักท่องเที่ยวน่าจะต้องได้ใช้ก็คือ รถไฟ Airport Express สำหรับเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง ใช้เวลาแค่ 24 นาทีเพื่อไปถึงเกาะฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีรถชัทเทิลบัสฟรี จากสถานีเกาลูนและสถานีฮ่องกง ไปส่งตามโรงแรมใหญ่ๆ ในเมืองให้บริการอีกด้วย

วันที่ 1 – เที่ยวย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui)

มาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง (HKIA) กันแล้วก็นั่งรถเข้าเมืองกันค่ะ ที่สนามบินฮ่องกงมีรถสาธารณะหลายประเภท เช่น รถไฟ, รถบัส, และรถมินิแวน

กินข้าวที่ Cafe De Coral

ไปทานอาหารมื้อแรกในฮ่องกงด้วยเมนูติ่มซัมมากมายและก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยว ที่ร้าน Cafe Del Coral เป็นร้านอาหารแฟรนไชส์สาขาทั่วฮ่องกง ไปทานได้ตลอดทั้งวัน

  • เมนูขึ้นชื่อ: ชานมร้อน และแกงกะหรี่ปลา
  • ราคา: HK$29 – 38 ต่อมื้อ
  • ที่ตั้ง: 36-44 Nathan Rd, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

ชอปปิ้งที่ห้าง Miramar

ใครจัดชุดมาไม่พอหรืออยากมาอัพเดตเทรนด์ นั่งรถไฟมาลงสถานี Tsim Sha Tsui ออกทางออก B1 แล้วเดินไปตามถนน Nathan ก็จะเจอกับห้าง Miramar แล้วค่ะ ท่ีนี่ก็จะมีแบรนด์ราคากลางๆ ด้วย เช่น UniQlo, American Eagle, Coach Silver เป็นต้น

  • ที่ตั้ง: 118 Nathan Rd, Tsim Sha Tsui

นั่งรถราง Peak Tram ไป Victoria Peak

ชมวิวฮ่องกงแบบเต็มๆ ตากันที่วิคตอเรียพีค (Victoria Peak) ดูวิวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าอยู่กับภูเขาสีเขียวขจี และน้ำสีฟ้าของอ่าววิคตอเรีย ถ้าใครอยากได้มุมถ่ายรูปวิวแบบรูปด้านบน จะต้องไปที่ลานชมวิวของ The Peak Tower Sky Terrace 428 ค่ะเมื่อไปถึงวิคตอเรียพีคแล้ว ก็แวะเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ่ ฮ่องกง (Madame Tussauds) กันได้นะคะ

  • วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟ MTR ไปลงสถานี Central ออกทางออก K แล้วเดินตามแผนที่ไปที่ตึก The Peak Tram แล้วไปขึ้นรถรางขึ้นไปวีคตอเรียพีค

วันที่ 2 – ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)

เช็คอินกันต่อที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ แน่นอนว่าเที่ยวได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ เด็กก็สนุกได้ ผู้ใหญ่ก็ได้ปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวเนอะ เล่นเครื่องเล่น ดูปราสาทเจ้าหญิงนินทรา ดูขบวนพาเหรดของมิกกี้เมาส์และเหล่าผองเพื่อนมากมาย และปิดท้ายด้วยการแสดงดอกไม้ไฟเหนือปราสาทดิสนีย์ในตอรกลางคืน เอาป็นว่าอยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะ

วันที่ 3 – เที่ยวนอกเกาะฮ่องกง

กินข้าวเช้า ใครเบื่ออาหารเช้าของที่โรงแรมหรือที่พักไม่รวมข้าวเช้า ในฮ่องกงมีร้านอาหารเช้าให้เลือกเยอะเลยค่ะ จะดื่มกาแฟง่ายๆ หรือโทส หรือบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ก็มีให้เลือกค่ะส่วนวันนี้เราขอแนะนำเป็นร้าน Mammy ร้านขนมรวงผึ้งฮ่องกงชื่อดัง มีหลายสาขา เลือกรสชาติและไส้ได้ ราคาประมาณ HK$30 แต่ถ้าใครมีงบขึ้นมาหน่อย จะเลือกไปทานที่ร้าน Cafe on the Park ก็ได้ค่ะ ที่นี่มีไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติสุดหรูให้บริการ

  • ที่ตั้งร้าน Mammy Pancake: 8-12 Carnarvon Rd, Tsim Sha Tsui, Hong Kong
  • ที่ตั้งร้าน Cafe on the Park: 2/F, Hotel Wing, The Royal Pacific Hotel & Towers, China Hong Kong City, 33 Canton Rd, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

ขึ้นกระเช้านองปิง 360 ไปเที่ยวเกาะลันเตา

มาถึงฮ่องกงทั้งที ก็อย่าพลาดที่จะไปขึ้นกระเช้านองปิงค่ะ กระเช้านองปิง 360 มีทั้งกระเช้าแบบธรรมดาและกระเช้าแบบใส ซึ่งจะเป็นกระจกทั้งหมดตั้งแต่เพดาน ผนัง และพื้น ให้เราได้ชมวิวกันแบบ 360 องศาที่แท้จริง กระเช้าจะส่งเราจากสถานีไปที่เกาะลันเตา (Lantau Island) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของพระใหญ่เทียนถาน (Tian Tan)พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประจำเกาะลันเตา ตั้งอยู่บนภูเขาตรงข้ามกับอารามโป่หลิน (Po Lin Monastery)

  • ที่ตั้ง: Ngong Ping Cable Car Tung Chung Station

Zen Noodle Cafe

แวะทานข้าวกลางวันที่ร้าน Zen Noodle Cafe ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ มีที่นั่งหน้าร้านแบบคาเฟ่ด้วย ขายเมนูหลากหลาย เน้นที่อาหารเส้น ก๋วยเตี๋ยว/ราเมนต่างๆ ข้าวกับของทานเล่นอื่นๆ ก็มีเหมือนกันค่ะ เช่น ราเมนซีฟู้ด ราเมงอกเป็ดรมควัน ราเมงแบบเผ็ด ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวผัด เกี๊ยว เป็นต้น ร้านจะอยู่บริเวณหมู่บ้านนองปิง (Ngong Ping Village) ทานเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นดูอาคารและถนนสวยๆ ของหมู่บ้านต่อได้เลยค่ะ

  • ที่ตั้ง: 2, Ngong Ping Village, Lantau Island, Hong Kong, China
  • วิธีการเดินทาง: หลังลงจากกระเช้านองปิง เดินต่ออีก 2 นาทีไปที่ร้าน Zen Noodle Cafe

หมู่บ้านชาวประมงไท่โอ

เดินเที่ยวหมู่บ้านประมงที่ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้ ด้วยบ้านที่สร้างบนเสาค้ำในน้ำ สามารถนั่งเรือล่องไปตามแม่น้ำไท่โอชมบ้านริมน้ำได้ด้วย ถ้าวันไหนโชคดีอาจจะได้เจอโลมาสีชมพูได้ด้วย

  • ที่ตั้ง: Tai O Fishing Village
  • วิธีการเดินทาง: พอลงจากกระเช้านองปิงแล้ว ไปขึ้นรถบัสสาย 21 ที่ Ngong Ping Bus Terminus ลงที่ป้าย Tai O Bus Terminus ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

วันที่ 4 – Ocean Park

โอเชี่ยนพาร์ค สวนสนุกประจำฮ่องกงเลยก็ว่าได้ มีทั้งอควาเรี่ยม การแสดงสัตว์ และเครื่องเล่นมากมาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เที่ยวเล่นให้หมดแรงก่อนเดินทางกลับ

  • จองบัตรเข้า Ocean Park Hong Kong

แค่นี้ก็ไปเที่ยวได้เลยค่ะ ในแผนนี้ยังมีเวลาว่างให้เพื่อนๆ ได้พักหรือเติมสลับปรับเปลี่ยนได้ด้วย ถ้าใครมีเวลาน้อยกว่า 4 วัน หาวันลาหยุดไม่ได้ ลองดูแผนเที่ยวฮ่องแบบ 2 วัน 1 คืนนี้ดูค่ะ เที่ยวได้เสาร์-อาทิตย์ ไม่ง้อวันลา

บทความแนะนำ